DPI ย่อมาจาก Dots Per Inch
หรือหากอธิบายอย่างสั้นๆก็คือ หน่วยวัดความละเอียดของรูปภาพที่เราจำเป็นต้องเลือกใช้ในงานพิมพ์เพื่อคุณภาพงานพิมพ์ที่ดีที่สุด ซึ่งยิ่งจำนวนจุดมีมากเท่าไหร่ ความคมชัดของรูปภาพก็จะมีมากยิ่งขึ้น เพราะเนื่องจากเครื่องพิมพ์ไม่สามารถรักษาขนาด Dot ให้เท่ากับ Pixel ได้และการพิมพ์ลงบนกระดาษที่ต่างกันอาจไม่สามารถรับหมึกได้เท่ากันจึงส่งผลให้เกิดข้อแตกต่างกับควาวมความคมชัดของภาพ ยกตัวอย่างเช่น ภาพที่มีรายละเอียด 2500DPI ก็จะแสดงผลได้ละเอียดและชัดเจนมากกว่ารูปภาพที่มีความละเอียดเพียงแค่ 1100DPI เป็นต้น
PPI ย่อมาจาก Pixels Per Inch
เป็นค่าบอกความละเอียดรูปภาพบนหน้าจอแสดงผล ในแง่ของจำนวนเม็ดพิกเซลต่อพื้นที่แสดงผลขนาด 1 ตารางนิ้ว เช่น คอมพิวเตอร์ และ โทรศัพท์เป็นต้น เนื่องจากทั้งสองหน่วยจะขึ้นอยู่กับพื้นที่นิ้ว อาจระบุได้ว่าจำนวนจุดและจำนวนพิกเซลจะเหมือนกัน โดยทั่วไปแล้วจอภาพแสดงผลจะมีค่าความละเอียดทั้งหมด 72PPI หรือ 1 นิ้วในหน้าจอแสดงผลจะมีค่าพิกเซลเท่ากับ 72 นั่นเอง และเรามักจะพบในแผง CCD , CMOS ของกล้องถ่ายภาพ ซึ่งจุดแต่ละพิกเซลเดียวกันนั้นสามารถแสดงผลหรือรับแสงสีได้เปลี่ยนแปลงตามค่าแสงนั้น ตามขนาดของ Pixel ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ตั้งค่า DPI & PPI ให้เหมาะสมกับประเภท
300 DPI/PPI
- สำหรับงานสื่อสิ่งพิมพ์ หรืองานที่ต้องพิมพ์ออกมา เช่น โปสเตอร์ โปสการ์ด โปสเตอร์ นามบัตร ป้าย แผ่นพับ ฯลฯ
72 DPI/PPI
- สำหรับงานที่ลงสื่อใน Social Media โพสสื่อออนไลน์อย่างเดียว เช่น แบนเนอร์สำหรับ Facebook, Line Website
- สำหรับงานสื่อสิ่งพิมพ์ขนาดใหญ่ ที่ใช้ความละเอียดน้อย เช่น ป้ายไวนิล